ในฤดูหนาว ตอนเช้าชาวบ้านมักจะออกมา{ตาก}แดด บางคนก็จุดไฟ เพื่อผิงไฟ ส่วนตอนกลางคืนก็จะห่มผ้าหนา ๆ เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น บางวันมีลมพัด ใบไม้พลิ้วไหว ตามสายลม
มะปราง: วันนี้หนาวมากเลยอะ เฮ้ย ผ้าพันคอแกสวยดีอะมุก
มุก: ฉันชอบผ้าพันคอผืนนี้มากเหมือนกัน อุ่นด้วยนะ ฉันซื้อมาจากตลาดนัดตอนเย็น
มะปราง: ราคาเท่าไรอะ
มุก: หนึ่งร้อยบาทเอง
มะปราง: แกงั้นตอนเย็นพาฉันไปหาซื้อ ผ้าพันคอหน่อยซิ
มุก: เออ ได้ซิ
ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูหนาว อากาศปีนี้เป็นปีที่หนาวมาก เมื่อหน้าหนาวมาถึง แต่ละคนก็จะแต่งตัวให้มิดชิด ไม่ว่าจะเป็นการใส่เสื้อกันหนาว สวมผ้าพันคอ สวม{ถุงเท้า}หนา ๆ
มะปรางและมุกเรียนที่{มหาวิทยาลัย}เดียวกัน บริเวณ{มหาวิทยาลัย}จะมีตลาดนัดเล็ก ๆ ตอนเย็น มี{แม่ค้า} พ่อค้ามาตั้งร้านขายอาหาร ผลไม้ ขนม เสื้อผ้า ของเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ ตลาดนัดแห่งนี้จะเปิดตอนเย็นเวลาห้าโมงเย็นถึงสี่ทุ่ม
มะปราง: เย่ ในที่สุดก็เลิกเรียนสักที ไปตลาดนัดกี่โมงดีอะมุก
มุก: เราไปกันเลยไหม ฉันเริ่มหิวแล้วด้วย อยากไปหาอะไรกินก่อน
มะปราง: ได้ซิ
{ทั้งสอง}คนเก็บของใส่กระเป๋าของตัวเอง แล้วเดินไปที่ตลาดนัด
ร้านแรกที่เห็นเมื่อเดินเข้ามาในตลาดนัด ข้างซ้ายมือคือร้านขายผ้าพันคอที่มุกซื้อ ข้างขวามือเป็นร้านขายต้นไม้
มุก: นี่ไงแก ร้านที่ฉันซื้อผ้าพันคอผืนนี้
มะปราง: อ๋อ แต่ฉันว่าเดี๋ยวขากลับ เราค่อยซื้อดีกว่า ไปกินข้าวกันก่อนดีกว่าแก
มุก: เออได้
ร้านอาหารที่{ทั้งสอง}จะไปกินเป็นร้านอาหารตามสั่งที่อยู่ท้ายซอยของตลาดนัด
มะปราง: แก วันนี้มีของขายเยอะมากเลยอะ ราคาไม่แพงด้วย
มะปรางพูดเมื่อเดินผ่านร้านขายของต่าง ๆ เพราะมีร้านเยอะมากที่ตัวเองสนใจ แล้วราคาก็ไม่แพงด้วย
มุก: นั่นซิแก ของมาขายเยอะมาก วันนี้
มะปราง: เห้ยแก ช่วงหน้าหนาวแบบนี้ สตรอว์เบอร์รี ราคาถูกมาก
มะปรางพูดขึ้นเมื่อเห็นร้านขายสตรอว์เบอร์รี ซึ่งเป็นผลไม้ที่มะปรางชอบมาก ปกติแล้วสตรอว์เบอร์รีจะมีราคาแพง แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวมันก็จะมีราคาถูกลง เพราะในแทบภาคเหนือของประเทศไทย สามารถปลูกสตรอว์เบอร์รีเองได้ ทำให้มีผลผลิตเยอะ ราคาถูก ไม่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ
มุก: ใช่ ดูซิ ราคาแค่นี้ได้เยอะมาก
มะปรางมองตามมือมุกที่ชี้ ปรากฏว่ามีร้านขายสตรอว์เบอร์รีประมาณสี่ห้าร้าน มะปรางเดินไปที่ร้านที่ตัวเองสนใจ เพราะเห็นว่าสตรอว์เบอร์รีกล่องใหญ่ ป้ายเขียนว่า 80 มะปรางเห็นแค่เลขว่าแปดสิบ ก็ตื่นตาตื่นใจมาก เพราะสตรอว์เบอร์รีร้านนี้กล่องใหญ่มาก ราคาก็ถูกกว่าร้านอื่น ๆ ด้วย
มะปราง: หนูเอาสตรอว์เบอร์รีหนึ่งกล่องค่ะ
{แม่ค้า}หยิบสตรอว์เบอร์รีหนึ่งกล่องใส่ถุงให้มะปราง จากนั้นมะปรางก็หยิบเงินแบงค์ร้อยให้{แม่ค้า}ไป มะปรางยืนรอเงินทอนจาก{แม่ค้า}อยู่ครู่หนึ่ง แต่{แม่ค้า}ก็ยังไม่ทอนเงินให้สักที มะปรางก็เริ่มแปลกใจ เลยกระซิบกับมุก
มะปราง: มุกฉันให้เงินแบงค์ร้อย{แม่ค้า}ไป ราคามันแค่แปดสิบบาทเองนะ ทำไมเขาไม่ทอนเงินให้ฉันอะ
มุกเงียบไปสักพัก แล้วมุกมองไปที่ป้ายราคา ที่{แม่ค้า}ติดไว้อีกครั้ง
มุก: แก ๆ ดูดี ๆ สิ
มุกชี้ไปที่ป้ายราคาที่{แม่ค้า}ติดไว้ มะปรางมองไปที่ป้ายอีกครั้ง ปรากฏว่า ข้อความที่เขียนเขียนว่า“สตรอว์เบอร์รีพันธุ์ 80 ราคา 100 บาท”
มะปราง: ฮ่า ๆ ๆ แก เรารีบไปร้านอาหารกันเถอะ
ตอนนั้นมะปรางรู้สึกอาย จึงรีบจูงมือมุกเดินออกจากร้านขายสตรอว์เบอร์รีทันที แล้วเดินตรงไปที่ร้านขายอาหารตามสั่ง
เมื่อมาถึงหน้าร้าน ปรากฏว่าคนมากินข้าวที่ร้านนี้เยอะมาก {ทั้งสอง}คนก็เลยมานั่งรอที่เก้าอี้หน้าร้านก่อน
ร้านอาหารนี้เป็นร้านอาหารตามสั่ง แต่จุดเด่นของร้านนี้คืออาหารอีสาน ภายในร้านมีต้นไม้หลากหลายชนิด มีโต๊ะและเก้าอี้วางไว้ให้ลูกค้ามานั่งที่ใต้ต้นไม้
เมื่อโต๊ะว่าง {ทั้งสอง}คนจึงเดินเข้าไปนั่งที่ร้านอาหารแห่งนี้ แล้วสั่งอาหารมากินกัน แล้ว{ทั้งสอง}คนก็พูดถึงเหตุการณ์เรื่องราคาสตรอว์เบอร์รีอีกครั้ง
มะปราง: แก เมื่อกี้ฉันมองไม่เห็นเลยอะว่าราคาหนึ่งร้อยบาท ฉันเห็นเป็นแปดสิบบาทจริง ๆ
มุก: ตอนแรกฉันก็เห็นว่าแปดสิบบาทเหมือนกันนะแก แต่พอมองดี ๆ อ้าว เขาเขียนราคาหนึ่งร้อยบาท แต่เขาเขียนราคาไว้เล็กมาก ๆ แล้วเขียนไว้ข้างล่างคำว่า “สตรอว์เบอร์รีพันธุ์ 80”
มะปราง: ใช่แก ราคาที่เขียนว่าหนึ่งร้อยบาทเล็กมาก ตอนแรกที่ฉันเลือกร้านนี้ เพราะมันราคาถูกกว่าร้านอื่น แต่ปรากฏว่าราคาก็เท่าร้านอื่น ฮ่า ๆ ๆ
มุก: เออ วันหลังเราต้องมองป้ายราคาดี ๆ ก่อนจะซื้ออะไร เราสองคนไม่ค่อยรอบคอบเท่าไหร่
มะปราง: เออจริง แล้วคนไม่รอบคอบสองคนมาด้วยกัน ไม่มีใครห้ามใครเลย ฮ่า ๆ ๆ
{ทั้งสอง}คนหัวเราะด้วยกันสักพักหนึ่ง อาหารที่สั่งไว้ก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะ แล้ว{ทั้งสอง}คนก็กินอาหารกัน วันนี้{ทั้งสอง}คนสั่ง ส้มตำ ลาบหมู ต้มเล้ง ไก่ปิ้ง ข้าวเหนียว {ทั้งสอง}คนกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อเสร็จแล้วก็ไปจ่ายเงิน จากนั้นเดินออกจากร้าน เดินกลับมาทางเดิม เพื่อไปซื้อผ้าพันคอ ผ่านร้านสตรอว์เบอร์รีร้านเดิม
มุก: แกยังไปมองป้ายร้านเขาอีก
มุกพูดหลังเห็นมะปรางหันไปมองป้ายราคาที่ร้านสตรอว์เบอร์รีร้านที่ตัวเองซื้ออีกครั้งก่อนจะเดินผ่านไป
มะปราง: ฮ่า ๆ ๆ ฉันแค่อยากแน่ใจว่าฉันไม่ได้ตาฝาด
มุก: ฮ่า ๆ ๆ ตอนนี้มั่นใจหรือยังว่าราคาหนึ่งร้อยบาท
มะปราง : เห็นเต็มสองตาเลยแหละ คราวนี้ ฮ่า ๆ ๆ
เมื่อมาถึงร้านขายผ้าพันคอ มะปรางก็เข้าไปในร้าน แล้วเลือกผ้าพันคอที่ตัวเองชอบ
มะปราง: ตัวนี้ราคาเท่าไรคะ
มะปรางหยิบผ้าพันคอลายที่ตัวเองชอบ ให้{แม่ค้า}ดูเพื่อถามราคา
{แม่ค้า}: ราคาหนึ่งร้อยบาทค่ะ
มะปราง: งั้นหนูเอาผืนนี้ค่ะ
จากนั้น{แม่ค้า}ก็หยิบผ้าพันคอใส่ถุง แล้วรับเงินจากมะปราง แล้ว{ทั้งสอง}คนก็เดินออกมาจากร้านขายผ้าพันคอ
มุก: แหม คราวนี้ถามราคาก่อนจ่ายด้วย
มะปราง: ก็เรามีประสบการณ์จากร้านสตรอว์เบอร์รีแล้วไงแก
มุก: ฮ่า ๆ ๆ เรื่องร้านสตรอว์เบอร์รี คงเป็นเรื่องเตือนใจ
มะปราง: ฮ่า ๆ ๆ จริงแก ฉันยังขำตัวเองเลย
{ทั้งสอง}คนคงจำเหตุการณ์ครั้งนี้ไปอีกนาน จากนั้น{ทั้งสอง}คนก็เดินกลับไปที่{มหาวิทยาลัย}โดยใช้เวลาแค่ห้านาทีก็ถึงแล้ว