Sign up now to save your progress and more!
Take Off Your Shoes When You Come In

Take Off Your Shoes When You Come In

Advanced Fiction Culture

ถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน

ฟ้าใสคือหญิงสาวจากประเทศไทยที่ได้มีโอกาสไปศึกษาที่ต่างประเทศเมื่อปีที่แล้ว ด้วย{ความตั้งใจ}และ{ความพยายาม}ใน{การเรียนรู้} เธอสามารถสร้างมิตรภาพกับ{ผู้คน}จากหลายประเทศ บางคนในหมู่{เพื่อน}ของเธอสามารถพูดภาษาไทยได้จาก{การสอน}ของเธอ และหนึ่งในนั้นคือโจ

“ทางนี้ โจ” ฟ้าใสเรียกโจด้วยความตื่นเต้น ขณะที่ชูป้ายที่มีชื่อของเขาเป็นเครื่องหมายว่าเธออยู่ที่นี่เพื่อรอรับเขา “ฟ้าใส ขอบคุณมากที่มารับผมที่สนามบินนะ”โจพูดออกมาด้วย{ความสุขใจ} และกอด{เพื่อน}สนิทด้วยความคิดถึง

“ด้วยความยินดีจ้า เดินทางมาเหนื่อย ๆ เรากลับบ้านกันเถอะ แล้วเดี๋ยวฉัน{ทำอาหาร}ไทยให้ลอง” ฟ้าใสเสนอ

“ ผมรู้สึกเหนื่อยมากกับการนั่งเครื่องบินมานาน การได้ลองอาหารไทยแท้ ๆ น่าจะเป็นการบำบัดความเหนื่อยล้าของผมได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ” โจตอบกลับ

ระหว่างทางกลับบ้าน ทั้งสองคนมีเรื่องราวและประสบการณ์จากช่วงเวลาที่พวกเขาไม่ได้เจอกันมาแลกเปลี่ยนกันอย่างสนุกสนาน

เมื่อมาถึงบ้านฟ้าใสแนะนำให้โจดูรอบ ๆ บ้าน บ้านของฟ้าใสมีสไตล์โมเดิร์นผสมผสานกับศิลปะไทย มีสองชั้น รอบ ๆ บ้านมีสนามหญ้าเล็ก ๆ ดอกไม้หลากหลายพันธุ์ มองเข้าไปภายในบ้านมีภาพวาดและรูปปั้นพระพุทธรูป ยังมีผ้าไหมไทยและวัตถุดิบสำหรับการ{ทำอาหาร}ไทยต่าง ๆ อีกด้วย

“ผมชอบบ้านของคุณนะ มันเป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์ไทยและโมเดิร์น” โจพูด

“ขอบใจจ้า เราเข้าบ้านกันเถอะ” ฟ้าใสกล่าว

“โจหยุดก่อน ที่ประเทศไทยต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านนะ แล้วเปลี่ยนไปใส่รองเท้าแตะสำหรับไว้ใส่ในบ้านนะ” ฟ้าใสรีบพูดเพราะเห็นโจกำลังเข้าบ้านโดยไม่ถอดรองเท้า โจทำตามที่ฟ้าใสบอก

“ฟ้าใส ทำไมต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านเหรอ” โจถามขึ้นหลังจากเข้ามานั่งโซฟาในบ้าน

“เพราะปกติแล้วพื้นบ้านของคนไทยไม่ได้ปูพรมเหมือนต่างประเทศ และจะทำความสะอาดพื้นบ้านเป็นประจำ บางครอบครัวกวาดบ้าน ถูบ้านทุกวัน พื้นบ้านจึงสะอาดมาก ดังนั้นจึงไม่ควรสวมรองเท้าที่มีสิ่งสกปรกติดมาเข้าบ้าน เพราะ{ความเชื่อ}ของคนไทยไม่ควรนำสิ่งไม่ดีหรือสิ่งสกปรกเข้าบ้าน และยังเป็นการเคารพต่อเจ้าของบ้านด้วย บางบ้านก็จะมีรองเท้าให้เปลี่ยนก่อนเข้า แต่ส่วนใหญ่คนไทยจะเดินเท้าเปล่าในบ้านนะ”ฟ้าใสอธิบาย

“โอ้ ผมเข้าใจแล้ว ผมจะจำไว้นะ” โจพูด

เมื่อเข้ามาในบ้าน พวกเขาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน โจนำของฝากจากแคนาดามาให้ฟ้าใส มันคือ{เซต}ของเมปเปิ้ลไซรัปและเสื้อฮอกกี้ของทีมแคนาดา

“ผมหวังว่าคุณจะชอบมัน”โจพูด

“ชอบมากเลยค่ะ ขอบใจมากนะ”ฟ้าใสกล่าวขอบคุณ

วันนี้พวกเขามาดูสถาปัตยกรรมภายในโบสถ์ ก่อนเข้าโบสถ์ เมื่อวานโจจำที่ฟ้าใสพูดได้ เขาถอดรองเท้าก่อนเข้าโบสถ์ “รู้ได้ยังไงว่าต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าโบสถ์” ฟ้าใสถามด้วยความแปลกใจ

“เพราะเธอบอกเราเมื่อวานเรื่องถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน เลยคิดว่าน่าจะต้องถอด” โจบอก

“สุดยอดเลยโจ โบสถ์เป็นพื้นที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาพุทธ จึงเป็นสถานที่ที่คนไทยเคารพมากกว่าบ้านอีก ดังนั้นยิ่งไม่ควรนำสิ่งสกปรกเข้ามา ทั้งทางกายและทางใจเลย ทุกคนจึงถอดรองเท้ากันก่อนเข้าโบสถ์ไง” ฟ้าใสอธิบาย

“นอกจากนี้แล้ว เวลาไปตามโรงแรมต่าง ๆ จะเห็นว่าทางโรงแรมจะมีรองเท้าแตะที่ไว้ใส่ในห้อง แบบใช้แล้วทิ้งไว้ให้ลูกค้า เพื่อเปลี่ยนก่อนเข้าห้อง หรือบางโรงแรมขนาดเล็กอาจจะให้ลูกค้าถอดรองเท้าวางไว้ข้างล่างก่อนขึ้นโรงแรม แต่ไม่ได้มีรองเท้าให้เปลี่ยน เหมือนที่บอกก่อนหน้านี้ว่าตามบ้านหรือแม้แต่โรงแรมจะมีการทำความสะอาดพื้นทุกวันอยู่แล้ว ดังนั้นการเดินเท้าเปล่าจึงไม่ใช่ปัญหา” ฟ้าใสอธิบายต่อ

“เข้าใจแหละ ขอบคุณสำหรับความรู้นะ” โจกล่าวขอบคุณ

ภายในโบสถ์ โจสัมผัสได้ถึงความเงียบและความสงบนิ่ง พระพุทธรูปอันยิ่งใหญ่อยู่ตรงกลางโบสถ์ เคลือบด้วยทองคำ ทำให้พระพุทธรูปมีความแวววาว ภาพวาดที่ประดับผนังแสดงถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในศาสนาพุทธ

วันนี้จบลงด้วยการสำรวจวัด โจรู้สึกถึงความเจริญรุ่งเรืองของวัฒนธรรมไทยอย่างชัดเจน เขาสนใจวัฒนธรรมไทยมาก และเมื่อพวกเขากลับถึงบ้านโจก็ไม่ลืมที่จะถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน